ปัญหาคือ นักเรียนมหาลัยส่วนใหญ่มักคิดถึงคะแนน TOEIC ตอนที่สายไป..
นักเรียนส่วนใหญ่เรื่องวันจบปริญญา ว่าจะทำผมแบบไหน แต่งหน้าอย่างไร แล้วใครจะมาถ่ายรูปบ้าง–มากกว่าจะหางานที่ไหน และจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้งานที่ตนเองต้องการ..
ถ้าน้องๆกำลังเรียนมหาลัยอยู่ น้องคงบอกตัวเองว่า “เรายังไม่ถึงปี 4 เลย..จะรีบติว รีบสอบทำไม?”
นักเรียนของครูบางคนก็คิดแบบนี้ละ จะใช้ค่อยติว จะใช้ค่อยสอบ แต่ละคนมาหาครู ลงคอร์สติว และให้เวลาตัวเองติวไม่ถึงเดือน แต่อยากได้คะแนนสูงๆ —ความกดดันตรงนี้มันมีมากนะ ถ้าไม่ตั้งใจจริง–ก็ทำคะแนนที่ต้องการไม่ได้..
แต่ครูก็มีนักเรียนอีกประเภทนึง ที่เตรียมตัวตั้งแต่ ปี 2 เนื่องจากเขาไม่มีความกดดันในการหางาน เขาจึงติว TOEIC@HOME ในระยะยาว ติวเสร็จก็สอบ พอสอบก็มักได้คะแนน 600+ เพราะทักษะทางภาษากำลังสดๆอยู่
พอเรียนจบก็ได้เปรียบ เพราะในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นกำลังติว TOEIC นักเรียนกลุ่มนี้ก็ได้สมัครงานที่ต้องการ และได้เข้าทำงานเรียบร้อยแล้วละ..
คนที่พร้อมก็มักจะมีทางเลือกมากกว่าคนที่ไม่พร้อม.. น้องอยากเป็นนักเรียนกลุ่มใดละ?
ถ้าอยากเป็นคนที่พร้อมในการเข้าสู่โลกการทำงาน อยากเป็นคนที่เลือกงานได้ มีประสิทธิภาพในการต่อรองเงินเดือน และเป็นคนที่บริษัทต่างๆอยากได้ตัว.. น้องๆควรฝึกภาษาตามที่ครูแนะนำนะ
แนวทางการฝึกภาษาเพื่อสอบ TOEIC ของนักเรียนมหาวิทยาลัย
- ปี 1 เป็นปีที่น้องๆกำลังคุ้นเคยกับสถานที่ใหม่ เพื่อนใหม่ ครูใหม่ โรงอาหารใหม่ และวิชาใหม่ๆ น้องๆยังไม่ต้องกังวลเรื่องข้อสอบ TOEIC มากมาย แต่ควรอย่าทิ้งการฝึกภาษาอังกฤษ—โดยเฉพาะทักษะการฟังและการอ่าน ฝึกฟังภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ตนเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง การอ่านก็เช่นกัน อ่านในสิ่งที่ตนชอบ ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือนิตยาสาร ในช่วงนี้ครูอยากให้น้องๆฝึกนิสัยการรักภาษาอังกฤษก่อน
ถ้าเรารักมัน มันจะกลายเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับเรา–จำไว้นะ
- ปี 2 เป็นปีที่น้องๆควรสร้างความคุ้นเคยกับข้อสอบ TOEIC ละ ไม่ต้องเข้าคอร์สติวเร่งด่วน หรือคอร์สวันเดียวให้เสียเงินฟรีๆ ครูแนะนำให้ลงคอร์สใหญ่ที่ให้เวลาฝึกเยอะๆ จะได้มีเวลาให้น้องซึมซับความรู้ตรงนี้ไป ถ้าเป็นคอร์สของครู ครูจะแนะนำให้ลงตัว TOEIC EXTRA หรือ TOEIC MASTER ที่ให้เวลาและเนื้อหาในการติวมากมาย ให้เวลาตัวเองในการติว 3-6 เดือนก่อนสอบ เสร็จแล้วไปสอบละ อายุคะแนน TOEIC นี้มี 2 ปี เป้าหมายของน้องๆควรเป็นระดับ TOEIC 550+
- ปี 3-4 บริษัทใหญ่ๆมักจะเรียกคะแนน TOEIC ทั้งๆที่เป็นแค่ช่วงฝึกงาน –นี่จะเป็นสิ่งที่น้องๆจะได้เปรียบ เพราะการที่น้องๆมีคะแนน TOEIC ในระดับที่เขาต้องการ–ในขณะที่กำลังเรียนอยู่นั้น–แสดงถึงความใฝ่รู้และความต้องการในการพัฒนาตนเอง สองสิ่งนี้เป็ฯสิ่งที่บริษัทส่วนใหญ๋ต้องการ..มากกว่าเกรดของน้องๆอีก
ถ้าบริษัทใดไม่เรียก ก็แนบใบคะแนน TOEIC ไปด้วย เพื่อแสดงถึงความสามารถทางภาษาของเรา และในช่วงฝึกงาน หมั่นช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน เรียนรู้วัฒนธรรมขององค์กร และฝึกทักษะการเข้าสังคมให้เป็น ถ้ามีโอกาสก็จงสร้างผลงานให้ตนเอง เพราะนี่เป็นเวลาที่น้องๆจะได้ให้ทุกคนเห็นถึงความสามารถ
พอเวลาการฝึกงานจบลง น้องๆก็จะรู้จักรู้พี่ทำงานในนั้น และถ้าน้องๆสร้างความประทับใจมากพอ–จะสมัครเข้าทำงานตอนจบก็จะไม่ยากเลย เพราะจะมีคนสนับสนุนมากมาย 🙂
พอถึงวันรับปริญญา น้องๆจะภูมิใจที่ตนเองได้เรียบจบ พร้อมทั้งมีบริษัทต่างๆมาขอให้น้องเข้าทำงานมากมาย
มีคะแนน TOEIC สูงๆก่อนใครก็งี้แหละ—เลือกได้ 🙂
