ในความคิดเห็นของเม.. ก็พอในระดับหนึ่ง ในระดับของพนักงานทั่วไป เมจึงคิดว่านี่คงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทุกบริษัทจัดให้ทำการอบรมและติวข้อสอบโทอิคที่เน้นการอ่านและการฟังอย่างเดียว..ในฐานะพนักงาน..หน้าที่ของเราคือฟังเข้าใจบอสและสามารถลงมือทำตามคำสั่งได้ถูกต้อง..
แต่พอเราอยู่ที่บริษัท..5-10 ปี อยากเป็นหัวหน้ากับเค้าบ้างแล้วจะทำอย่างไร?
ประสบการณ์ทำงานก็มีเยอะ สะสมจำนวนปีที่ทำงานในบริษัทมาก็มาก…แต่ทำไมบอสใหญ่ไม่โปรโมทเราซักที
ก็เพราะ..เราไม่เก่งภาษาอังกฤษ
การที่จะเป็นหัวหน้า..ไม่ใช่แค่ฟังอย่างเดียว..แต่สามารถถาม และออกความคิดเห็นได้ ถ้าเป็นหัวหน้าแต่ไม่เคยพูดอะไร..ไม่เคยแสดงความคิดเห็น ไม่เคยแนะนำพรีเซนต์ไอเดียใหม่ๆ ซักวันก็จะถูกปลดมาเป็นพนักงงานเหมือนเดิม เกะกะคนใหม่ที่ไฟแรงกว่า ภาษาเก่งกว่า และสามารถนำเสนอความคิดใหม่ๆเพื่อพัฒนาบริษัทได้
คนส่วนใหญ่..จะเรียนภาษาอังกฤษ ก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นจริงๆ แต่พอมีเหตุนั้น..ก็อยากเก่งภาษาอังกฤษแบบข้ามคืน ในอีกร้อยกว่าปีข้างหน้าเราอาจจะมียาภาษาที่ทานแล้วสามารถพูดภาษานั้นๆได้ แต่ในตอนนี้..ภาษาอังกฤษคือทักษะที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน ไม่ใช่วิทย์ เลขที่ติวข้ามคืนก็ทำได้
ถ้าคุณไม่เคยฝึก ไม่เคยสนใจภาษาอังกฤษ วันนึงโอกาสมาถึง..แล้วจะโทษใคร?
เมแนะนำให้มองภาษาอังกฤษแบบเพื่อนสนิทคนๆนึง เพราะอันที่จริง..มันก็อยู่กับเรามาสิบกว่าปี มองไปทางไหนก็เห็นภาษาอังกฤษ ดูหนังยังเป็นภาษาอังกฤษ แล้วจะหนีมันทำไม.. เริ่มเปลี่ยนมุมมอง แล้วหันมาสนใจภาษาอังกฤษวันนี้ แล้วพอวันที่เราจะได้เป็นหัวหน้า..บอสใหญ่จะได้ไม่หนักใจ..ให้เรารับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว!