หาที่เรียน IELTS อย่างไรดี
เมื่อเราจะต้องสอบ IELTS ซึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเตรียมสอบ IELTS ด้วยตัวเอง เนื่องจากพื้นฐานไม่แน่น ต้องการรีบยื่นคะแนนสอบ ไม่ว่าด้วยเหตุผลได้ก็แล้วแต่ วิธีง่ายๆที่ทุกคนคิดออก คือ เราก็ลงเรียนคอร์สเตรียมสอบ IELTS ไปแล้วกัน ซึ่งมีสถาบันหลายแห่งที่เปิดสอน IELTS ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนแบบกลุ่ม เรียน IELTS ตัวต่อตัว หรือการเรียนออนไลน์ แล้วเราจะเลือกแบบไหนที่เหมาะสมล่ะ ถ้าลงเรียนไปแล้ว คะแนนจะถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ไหม ตัดสินใจอย่างไรดี สามารถอ่านเพิ่มเติมได้หากอยากรู้ว่าเราจะรับมืออย่างไรเมื่อสอบ IELTS มันยาก นอกจากลงเรียนเพิ่มคลิกที่นี่
เวลาเราจะลงเรียนคอร์สเรียน IELTS เราก็อยากได้เรียนแบบคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปถูกไหมคะ อีกอย่างถ้าลงเรียนแล้ว เราควรจะสอบผ่านด้วยคะแนนที่ดี ให้ถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ จำนวนเรียนชั่วโมงเยอะเมื่อเทียบกับค่าเรียนดี อันนี้ไม่ถูกต้องสักทีเดียวนะคะ จำนวนเรียนมาก ไม่ได้หมายความว่าจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเรียนจำนวนชม.ที่น้อยกว่า เราควรเข้าไปดูแผนการเรียนที่เขาจัดให้ว่ามีขั้นตอนการเรียน เนื้อหาที่เรียนครอบคลุมแค่ไหนสำหรับการสอบ IELTS บางครั้งด้วยความที่เราพื้นฐานอ่อนแล้วไปลงเรียนคอร์สสอบ IELTS เลยอาจจะเสียเงินเปล่า เราต้องเข้าใจก่อนนะคะ การเรียนคอร์สสอบ IELTS เลย แปลว่า เราต้องมีพื้นฐานดีก่อนมาลงเรียน ไม่งั้นเราจะเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ เหนื่อยและเลิกเรียนไปในที่สุดเท่ากับเราเสียเงินฟรีเลยนะคะ เรียนไปไม่ได้สอบ ฝืนเรียนแล้วมาสอบ คะแนนอาจจะไม่ดีก็ได้ค่ะ ฉะนั้นก่อนจะลงเรียนอะไรคิดให้เยอะๆ เงินออกก็คือออกไปเลย อย่าให้ตัวเองหลงกลการตลาด เห็นว่าลดเยอะต้องจองเลย ไม่งั้นจะไม่ทัน เดี๋ยวมันก็มีโปรโมชั่นมาเรื่อยๆแหละค่ะ เผลอๆจะดีกว่าอันแรกที่เราเจอด้วย อีกอย่างถ้าเราสอบไม่ผ่านหรือไม่ถึงเป้าหมายคะแนนที่เราตั้งไว้ สถาบันจะมีการดูแลเราอย่างไรในฐานะนักเรียน ไม่ใช่เรียนจบแล้วสอบไม่ผ่านก็เทเราเลย อย่างนี้เราคงไม่โอเคหรอกค่ะ อย่างน้อยก็ควรพยายามให้เราสอบผ่าน เช่น สามารถกลับมาเรียนซ้ำได้จนกว่าจะสอบผ่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม อันที่จริงมันไม่ค่อยช่วยอะไร เพราะเรายังไม่รู้ว่าทำไมเราถึงสอบ IELTS ไม่ผ่าน ควรจะหาทางออกด้วยกันว่ามันมีข้อผิดพลาดตรงไหนจะได้แก้ให้ตรงจุด กลับไปเรียนซ้ำอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก สถาบันควรให้คำแนะนำให้เราไปฝึกนอกเวลาเรียนด้วยค่ะ มีแบบฝึกหัดนอกคลาสพร้อมเฉลยละเอียด มีครูตรวจการบ้านพร้อมแนะวิธีที่เราควรจะทำเพื่อเพิ่มคะแนน อย่างนี้เรียกว่า แก้ตรงจุด นอกจากนี้ตัวเราก็มีส่วนในการเตรียมพร้อมสอบด้วย สถาบันอาจจะสอนดี แต่เราขี้เกียจ เรียนบ้าง ไม่เรียนบ้าง อันนี้ก็ต้องโทษตัวเราเองนี่แหละ
เรียนตัวต่อตัว VS เรียนออนไลน์
เมื่อเราเลือกสถาบันที่จะเรียนได้แล้ว เราก็มาเลือกว่าจะลงเรียนคอร์สแบบกลุ่ม ตัวต่อตัว หรือออนไลน์ การเรียนแบบกลุ่มปกติราคาจะอยู่ระดับกลาง ถ้าเทียบกับการเรียน 2 แบบที่เหลือ คือ ตัวต่อตัว ก็จะแพงสุด ส่วนเรียนออนไลน์ถูกสุด เรียนแบบกลุ่ม ครูผู้สอนไม่สามารถโฟกัสนักเรียนทุกคนได้เท่ากันทั้งหมด เราต้องพยายามเรียนให้ทันตามเพื่อนในห้อง ถ้าเราดันไปเรียนคลาสเดียวกับคนพื้นฐานดี เขาก็จะไปกันเร็วมาก ทำให้เราตามไม่ทันและไม่ค่อยอยากเรียนค่ะ หากเป็นแบบนั้นเราอาจจะมองคอร์สเรียน 2 แบบที่เหลือแทน ถ้าจะลงเรียน IELTS ตัวต่อตัวไปเลย ครูจะได้สนใจเราคนเดียว ได้รับความรู้แน่น ไม่กดดันด้วยเพราะเราไม่ต้องเรียนกับใคร เวลาการเรียนยืดหยุ่นกว่า แต่เสียอย่งเดียว ราคาแพงมาก ถ้าสู้ไหวก็อาจจะเหมาะค่ะ สุดท้ายการเรียนแบบออนไลน์ ข้อดี คือ เราสามารถจัดตารางเวลามาเรียนได้ ราคาไม่แรง แต่เรียนกับวิดีโอไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับครูผู้สอน อาจจะรู้สึกเบื่อได้ ต้องมีวินัยในการเรียนเพราะไม่มีอะไรมาบังคับให้เราเรียนได้ เวลาทำโจทย์แล้วไม่เข้าใจ เราก็ต้องโทรไปถามหรือรอคำตอบจากแชท ซึ่งอาจจะไม่มีบริการในส่วนนี้ เราอาจจะได้แต่เฉลยมาแต่ไม่รู้วิธีการว่าทำไมต้องตอบแบบนี้ ตอบแบบอื่นไม่ได้หรอ
ในฐานะเมย์เป็นครูสอน ไม่ว่าการเรียน IELTS ตัวต่อตัวหรือการเรียนแบบออนไลน์ ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้มีความแตกต่างกันมากในเรื่องประสิทธิภาพการสอบ IELTS เพื่อให้นักเรียนได้คะแนนที่ดี การที่จัดคอร์สเรียนให้เหมาะสมกับนักเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เมย์ให้นักเรียนเรียนปรับพื้นฐานให้แน่นก่อนลงเรียนคอร์ส IELTS บางคนบอกเมย์ว่าเขาพื้นฐานดีอยู่แล้วขอข้ามไปเรียน IELTS เลยได้ไหม คำตอบ คือ ไม่ได้ค่ะ นักเรียนพื้นฐานดีก็จริง แต่นักเรียนไม่ได้รู้ทุกอย่างจริงไหมคะ การเรียนสอบ IELTS ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือนในการเตรียมตัวสอบ อยู่ดีๆเรียนไม่ถึง 1 เดือนแล้วสอบ มันเป็นไปได้ยากที่จะได้คะแนนสูงๆค่ะ การทำคะแนน IELTS มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น และไม่ได้ยากขนาดนั้นด้วยแต่คุณจะต้องมีวิธีการเตรียมตัวสำหรับการทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง นี่ไม่ใช่ข้อสอบธรรมดา นี่ไม่ใช่ข้อสอบแค่มานั่งติวสูตรนะคะ นั่งอ่านสูตร นั่งทำเทคนิคเท่าไหร่ก็พอ ไม่ใช่เลย นี่เป็นข้อสอบทักษะแล้วเมื่อใดที่คุณเข้าใจหลักของข้อสอบ IELTS ในครั้งนี้เนี่ย มันจะทำให้คุณสามารถวางแผนการติวได้ ว่าจะต้องติวยังไง
ถ้าต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการวางแผนการติวและอยากติวแบบเป็นหลักการในแผนการเรียนอย่างไร ให้มาปรึกษาเมย์ได้นะคะเพราะว่าตัวแผนการเรียน Daily Top Star นักเรียนที่เรียนกับเมย์ชอบมากๆเลยนะคะเพราะว่า มันจะสะสมวิธีการฝึกทักษะทั้ง 4 ด้านในแต่ละวัน ใช้เวลาแค่วันละ 30 ถึง 60 นาที เท่านั้นเองค่ะ แล้วบอกด้วยนะคะว่าถ้าคุณมีพื้นฐานน้อย แล้วคุณต้องการคะแนนประมาณ 7.0 ในคอร์สนี้นะคะจะมีมากกว่า 100 ชั่วโมง และค่าเรียนเนี่ยเรียนได้ซ้ำๆนะคะ ถามได้ตลอด ก็คือไม่ถึง 20,000 บาทด้วยซ้ำ ถ้ามาเปรียบเทียบกันนะ ในระหว่างการเรียน IELTS ตัวต่อตัว ที่ราคาจะเกือบแสน ไม่ได้ฝึกทักษะไม่ได้การันตีผล กับการเรียนแบบ IELTS@HOME การเรียนออนไลน์ ทบทวนได้ไม่จำกัด มีแผนการเรียนให้ ฝึกทักษะทุกวัน การันตีผลโดยการคืนเงิน 100% แบบไหนที่จะเวิร์คกว่ากัน แต่การติวของคอร์ส IELTS@HOME ของเมย์เนี่ยบอกเลยนะคะว่า คุณจะต้องมีเวลาในการเตรียมตัวเพราะว่า ถ้าจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำได้ภายใน 2-3 อาทิตย์ บางคนทำได้ค่ะ คนที่มีพื้นฐานแล้วทำได้ แต่ถ้าคุณมีพื้นฐานน้อยไม่โอเคค่ะ คุณจะรู้สึกเฟลเพราะว่าสอบไม่ผ่าน แล้วจะเสียค่าสอบ 6,900 บาทไปฟรีๆ ดังนั้นอยากจะให้ทำความเข้าใจใหม่นะคะเกี่ยวกับการเรียน Private เดี่ยว ในรูปแบบของการเตรียมสอบ IELTS ว่าจริงๆแล้วเนี่ยมันได้ผลขนาดไหนกัน ทำ Research ให้เยอะๆ ไปศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าจริงๆแล้วเนี่ยข้อสอบต้องการอะไร แล้วเราควรที่จะเตรียมตัวแบบไหน
คุณจะสามารถเข้าสอบ IELTS SPEAKING อย่างมั่นใจด้วยเทคนิคการฝึกในคลาสนี้ (เรียนฟรี) !!